วันที่ 24 ม.ค. 2566 เมื่อเวลา 11.00 น. นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ ให้ความเห็นเรื่องข้อกฎหมายกรณีเจ้าหนี้เปิดเพลงทวงหนี้ลูกหนี้หน้าบ้านเสียงดัง ถือว่ามีความผิด อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ว่า…
กรณีที่เจ้าหนี้เปิดเพลงทวงหนี้หน้าบ้านลูกหนี้เสียงดัง การกระทำแบบนี้เจ้าหนี้อาจจะมีความผิดทางกฎหมายได้ เพราะไม่ใช่ลูกหนี้คนเดียวที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ข้างบ้านก็อาจจะได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน
นายรัชพล กล่าวต่อว่า ตามกฎหมายการที่ไปคุกคาม หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนที่ 2 การที่เจ้าหนี้ไปทวงหนี้แล้วมีคำพูดในลักษณะ จะจ่ายหรือไม่จ่าย ก็จะเข้าข่ายหมิ่นประมาทผู้อื่น มีโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายรัชพล กล่าวอีกว่า… ทั้งนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะทวงหนี้ลูกหนี้ แต่จะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะไม่อย่างนั้นตัวเองอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาก็ได้ โดยวิธีการทวงหนี้ที่อยู่ในกรอบของกฎหมายสามารถทำได้ เช่น โทรไปคุย ไปหาได้ แต่ต้องระมัดระวัง แต่ต้องไม่ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่เป็นลักษณะประจานก็สามารถทำได้หมด
นายรัชพล กล่าวว่า… และในทางกฎหมายเจ้าหนี้ก็ไม่สามารถบังคับลูกหนี้ให้จ่ายเงินได้ ตามกระบวนการทางกฎหมายแล้วจะต้องไปฟ้องศาล เมื่อศาลตัดสินมาแล้วและลูกหนี้ยังไม่ได้ชำระเงิน ก็ต้องไปตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์
แต่ถ้าหากใครอยากได้เงินเร็ว ๆ หรือกันเอาไว้ เผื่อลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายเงินคืน ก่อนที่จะให้เงินไปควรจะมีสิ่งของมาจำนำหรือจำนองเอาไว้ อย่างน้อยเราก็มีทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ เช่น…
ลูกหนี้ยืมเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมกับเอาทองมาฝากไว้ ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้เราก็สามารถดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ นายรัชพล กล่าว