วันที่ 21 ม.ค. 2566 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่มีกลุ่มมิจฉาชีพพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวและดูดเงินจากบัญชีธนาคารว่า… รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ โดยเร่งรัดดำเนินการมาตรการป้องกัน ยับยั้ง ปราบปราม และดำเนินคดี
ที่ผ่านมามีกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เช่น กรณีการป้องกันการโหลดแอปฯ ที่อันตราย ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบการแพร่ระบาดของมัลแวร์อันตรายที่มาในรูปแบบของแอปพลิเคชันบนมือถืออย่างต่อเนื่อง
เพราะผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปฯ ฝังมัลแวร์อันตรายไว้ มีโอกาสที่จะถูกดูดข้อมูลส่วนบุคคลหรือถูกควบคุมมือถือจากระยะไกล ทำให้มิจฉาชีพสามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือได้ จากข้อมูลในปี 2022 มีการเผยแพร่รายชื่อแอปพลิเคชั่นอันตราย 203 รายการ ทั้งในระบบ iOS และ Android
จึงขอให้ประชาชนทำการตรวจสอบ หากพบแอปพลิเคชั่นดังกล่าวให้ถอนการติดตั้งโดยทันที และควรอัพเดทระบบของเครื่องโทรศัพท์ของตนเองให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ และให้ระมัดระวังในการดาวน์โหลดแอปฯ มาใช้งานลงบนมือถือด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงดีอีเอส ได้ประสานกับทาง Play Store หรือ App Store ให้นำแอปฯ เหล่านี้ออกจากระบบแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) แนะนำวิธีตรวจสอบมือถือระบบแอนดรอยด์ ว่าถูกติดตั้งแอปพลิเคชั่นรีโมทดูดเงินหรือไม่ ดังนี้
1.ไปที่เมนูการตั้งค่า (รูปฟันเฟือง) เลือก > แอปพลิเคชั่น แล้วกดที่จุด 3 จุด มุมขวาบน เลือกเมนูย่อย > การเข้าถึงพิเศษ
2.หากไม่สามารถเปิดดูเมนูดังกล่าวได้ หน้าจอจะเด้งออกไปที่หน้าหลักทันที แสดงว่า มือถือเครื่องนั้นถูกฝังแอปฯ เรียบร้อยแล้ว
3.สิ่งแรกที่ต้องทำ คือตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันที แล้วสำรองข้อมูลที่สำคัญ จากนั้นล้างเครื่อง โดยรีเซ็ต (Reset) เครื่อง กลับคืนค่าเริ่มต้นจากโรงงาน