จากกรณีเหตุการณ์ที่นางอังคณารัตน์ ได้เปิดใจว่า…หลังจากทราบข่าวการแจ้งความจับก็เลยกลับมาเคลียร์ปัญหา เรื่องเงิน และยืนยันว่าไม่ได้ไปกับผู้ชาย คนที่มาที่บ้าน เป็นแค่รู้จักกัน แต่ไปคนเดียวโดยไม่มีใครไปด้วย และไม่มีเรื่องคนอื่น แต่ไม่พอใจที่สามีชอบดุด่า และก็โดนลูกชายหาเรื่องใส่ จึงหนีไปทำใจ
ตั้งใจจะหนีไปเข้าวัดไปเรื่อยเพื่อเอาเงินที่ถูกรางวัลไปทำบุญ และจะเข้าวัดไปนุ่งขาว ห่มขาว สะเดาะเคราะห์ แต่ถูกใส่ร้าย จึงจำต้องกลับมาเคลียร์ปัญหา และคำครหา ยืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวมาเกี่ยวข้อง
การเดินทางกลับมาก็นำเงินที่เหลือจากการถูกรางวัล 6 ล้านบาท ในบัญชีที่โอนให้สามีแล้ว 1 ล้าน ใช้หนี้สินที่เป็นหนี้กับ ธ.ก.ส.ไปแล้ว และเหลือ 3.1 ล้านกลับมาด้วย เพื่อนำมาคืน แล้วเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมศักดิ์ เกตุพิบูลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี ร้อยเอ็ด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากสามี และลงบันทึกประจำวันว่า…
นำเงินทั้งหมดมาคืนให้กับสามี เพื่อแบ่งสามส่วน ทั้งสามีและลูก 2 คน ดังกล่าว พร้อมกับแจ้งว่าหลังจากคืนเงินและขอสร้อยทองคืนแล้ว ยืนยันขอแยกทางกับสามี ไล่ให้ออกจากบ้านและที่ดิน ที่เป็นมรดกของตนเอง ภายใน 3 วัน โดยจะให้ทุกคนไปเปิดบัญชีธนาคารของตนเองทั้ง 3 คน ในวันจันทร์ แล้วจะโอนเงินให้ เพื่อให้ทุกอย่างจบ
โดยนายเทอดศักดิ์ กลั่นมณี ทหารเกษียณราชการ ที่จดทะเบียนสมรสกับ นางอังคณารัตน์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาอยู่ในบ้านของนางอัคนารัตน์กับนายมะนิชในฐานะผู้อยู่อาศัย ตนนั้นอยากให้นางอังคณารัตน์เดินทางกลับมาที่บ้านเพื่อหย่าขาดจากตนให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากให้มีเรื่องฟ้องหย่ากัน
หลังจากนี้ตนจะไปสร้างบ้านเพื่อแยกออกไปอยู่ส่วนตัว ตนมีเงินที่ปล่อยกู้ไว้อีกหลายแสนก็จะนำไปสร้างบ้าน ขณะนี้หัวใจผมไม่มีแล้ว ทีแรกคิดว่าจะเป็นแม่พระที่คอยดูแลผม จากนี้ไม่มีอะไรจะบอกกับนางอังคณารัตน์อีกแล้วขอเก็บเงินเพื่อไปสร้างบ้านแยกออกไปอยู่ส่วนตัวดีกว่า
ที่มา : amarin