ผ่านไปแล้วสำหรับงานประเพณีลอยกระทง เมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา ที่โภคาราม (ดอนคา) ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี มี นักท่องเที่ยว หนุ่มสาว และประชาชน พาครอบครัวลูกน้อยได้พากันหลั่งไหลไปกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพระใหญ่ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนไปลอยกระทงรอบโบสถ์ ซึ่งทางวัดได้เตรียมสถานที่ไว้ให้โดยการสูบน้ำเข้าใส่ไว้รอบโบสถ์ กันอย่างคึกคัก
พระครูกิตติสุวรรณวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภออู่ทอง เจ้าอาวาสวัดโภคาราม (วัดดอนคา) กล่าวว่าทางวัดได้ร่วมกับผู้นำชุมชนชาวบ้านดอนคา จัดงานประเพณีลอยกระทงรอบโบสถ์ และงานปิดทองหลวงพ่อพระใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ และศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวบ้านดอนคาและชาวบ้านทั่วไปให้ความเคารพนับถือเลื่อมใสศรัทธา มากราบไหว้ขอพร ขอเรื่องธุรกิจ การงาน โชคลาภ
เมื่อประสบความสำเร็จตามที่ได้ขอไว้ก็จะมาแก้บนด้วยวงดนตรีลำแคน ขนมจีน ไข่ต้ม เป็นต้น ดังนั้นทางวัดจึงได้จัดงานลอยกระทงรอบโบสถ์ และไหว้พระขอพรหลวงพระใหญ่ พระพุทธรูปเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์คู่วัดดอนคาที่ประชาชนทั่วไปให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่นเองและครอบครัว ติดต่อกันมาหลายปี
สำหรับการลอยกระทงนั้น
1. เพื่อแสดงความสำนึกถึงบุญคุณของแม่น้ำที่ให้เราได้อาศัยน้ำกิน น้ำใช้ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงไปในน้ำ อันเป็นสาเหตุให้แหล่งน้ำไม่สะอาด
2. เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ และได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนหาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่าแม่น้ำเนรพุททา
3. เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพราะการลอยกระทงเปรียบเหมือนการลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า และสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ลอยตามแม่น้ำไปกับกระทง คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์
4. เพื่อเป็นการบูชาพระอุปคุต ที่ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกห โดยมีตำนานเล่าว่าพระอุปคุตเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามารได้
5. เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และยังรักษาภูมิปัญญาพื้นบ้านไว้อีกด้วย การลอยกระทงรอบโบสถ์นอกจากปลอดภัยจากการจมน้ำของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ยังเก็บกวาดขยะกระทงได้ง่าย สำหรับประเพณีลอยกระทงรอบโบสถ์ของวัดดอนคา แห่งนี้ถือเป็นแห่งแรกของภาคกลาง ซึ่งได้จัดต่อเนื่องกันมาแล้วถึง 15 ปี
สำหรับสีสันการลอยกระทงรอบโบสถ์วัดดอนคานั้น ปีนี้มีสาวหน้าตาดีใจถึงมาลอยกระทงกับพ่อแม่โดยใช้แบงค์พัน จำนวน 3,000 บาทติดยอดกระทงต้นกล้วยเมื่อตั้งจิตอธิษฐานขอขมาพระแม่คงคา ขอพรให้โชคดีมีความสุขปล่อยทุกข์ปล่อยโศกเสร็จก็ปล่อยกระทงลงน้ำ
แต่พอกระทงลงน้ำไหลไปได้ไม่ 20 เมตรก็มีสาวใหญ่ท่าทางปราดเปรียวลงไปดักรอเก็บยอดกระทงตัดหน้าอดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่อุตส่าห์ ไปดักรอใช้โทรศัพท์ส่งหาหวังจะเจอกระทงใบดังกล่าวสุดท้ายอด โดนตัดหน้าไปก่อน อย่างไรก็ตามการที่พาครอบครัวมาลอยกระทงถือเป็นการมาทำบุญไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว