จากกรณีที่ได้มีลูกชายของผู้เสียหายรายหนึ่งเปืเเผยว่า… แม่ของตนไม่สามารถที่จะถอนเงินจำนวนกว่า 1 หมื่นบาท จากธนาคารนครหลวงไทย สาขาจังหวัดยโสธรได้ เนื่องจากแม่ของตนได้ไปเปิดบัญชีเพื่อฝากเงินเอาไว้กับธนาคารนครหลวงไทย สาขายโสธร เมื่อหลายปีก่อน และไม่เคยฝากเงินเพิ่มหรือถอนเงินที่ฝากเอาไว้แต่อย่างใด
จนกระทั่งแม่เดินทางจะไปขอถอนเงินกับธนาคารกับไม่สามารถถอนได้โดยทางธนาคารอ้างว่าไม่มีฐานข้อมูลของแม่ตนแต่อย่างใดจึงไม่สามารถที่จะดำเนินการใดๆ ได้ ล่าสุด นางสำราญ ศักดิ์ศรี อายุ 59 ปี เจ้าของบัญชีธนาคารที่ไม่สามารถถอนเงินได้ โดยนางสำราญฯ ได้นำสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารนครหลวงไทย สาขายโสธร เลขบัญชี 591-2-08527-5 มาโชว์ให้ดู
ซึ่งในสมุดบัญชีเงินฝากมียอดเงินคงเหลือ จำนวน 10,606.73 บาท นางสำราญ ศักดิ์ศรี เล่าว่า… ตนได้ไปเปิดบัญชีธนาคารเงินฝากกับธนาคารนครหลวงไทย สาขายโสธร เมื่อประมาณต้นปี 2550 พร้อมกับฝากเงินเอาไว้จำนวนกว่า 2 หมื่นบาท จากนั้นก็ไม่ได้ไปฝากเพิ่มหรือถอนเงินออกจากบัญชีแต่อย่างใด เนื่องจากตนลืมไปว่ามีบัญชีของธนาคารนครหลวงไทย
จนกระทั่งผ่านไปนานหลายปีและเมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมาตนไปค้นเจอสมุดบัญชีธนาคารนครหลวงไทย อยู่ในบ้าน และเห็นว่ามียอดเงินคงเหลืออยู่จึงนำสมุดบัญชีเงินฝากดังกล่าวไปติดต่อกับธนาคารเพื่อจะขอถอนเงินออกแต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าบัญชีดังกล่าวถูกระงับแล้ว และไม่มีฐานข้อมูลในระบบแต่อย่างใด
จึงไม่สามารถที่จะถอนเงินดังกล่าวได้ เนื่องจากธนาคารนครหลวงไทย ได้ยุบรวมเป็นธนาคารธนชาตแล้วในปัจจุบัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารได้เจาะสมุดบัญชีธนาคารเงินฝากของตนทันที ตนเห็นว่าไม่สามารถถอนเงินได้จึงเดินทางกลับบ้านทันที และได้โทรศัพท์ไปเล่าให้ลูกชายที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดฟัง ลูกชายจึงได้โทรศัพท์ไปร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อขอให้ตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจนกับทางธนาคารด้วย