จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุมีผู้ก่อเหตุใน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัลำภู ล่าสุดอาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เห็นหลานมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนนิสัยดี เรียนเก่ง ไม่ได้เจอหน้ากันมา 2 เดือนกว่า
แต่ก่อนหลานเป็นตำรวจอยู่กรุงเทพฯ ส่วนมีเมียและลูกหรือเปล่าไม่รู้ จนมารู้ว่าย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน ส่วนมูลเหตุจูงใจนั้น ไม่ทราบเลยว่าสาเหตุมาจากอะไร และอยากฝากไปขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคน ขอโทษและเสียใจที่หลานชายก่อเหตุ เข้าใจใครก็ยอมรับไม่ได้ แต่อยากให้แยกแยะ ทางญาติไม่เกี่ยวข้อง
ส่วนพ่อของหลาน หลังเลิกกับแม่ ได้มีครอบครัวใหม่ ย้ายไปอยู่ที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว ส่วนเมื่อวานก็ไปงานเผาของหลานที่ จ.อุดรธานี เสร็จงานก็กลับบ้าน ขณะที่แม่ของผู้ก่อเหตุ เพิ่งกลับมาถึงบ้าน เล่าว่า เมื่อวานเผาศพลูกชายแล้ว ก็เอาเถ้ากระดูกไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย
ต่อจากนี้ไปยังไม่รู้จะอยู่อย่างไร ส่วนชาวบ้านไม่อยากให้ตนอยู่ที่หมู่บ้าน ก็จะขออยู่ ไล่ไปอยู่ที่อื่นก็ไม่รู้จะไปไหน ส่วนคนทำชั่วก็ตายไปแล้ว อย่ามาอคติกับผู้เป็นแม่เลย มันคนละส่วนกัน เพราะแม่ไม่รู้เรื่อง ไม่มีพ่อแม่คนไหนสอนลูกให้เป็นโจรเป็นขโมย ทุกคนสอนมาดีหมด
ลูกชายทำชั่วเองเป็นเอง เป็นผลกรรมของเขา ขอให้อภัยด้วยนะ และอภัยให้แม่ด้วย แม่ไม่รู้เรื่อง เสียใจมากๆ กับสิ่งที่ผ่านมามีคนบาดเจ็บล้มตาย ส่วนแม่ก็สูญเสียลูกสะใภ้ หลาน และลูกชายคนชั่วคนนี้ เขาชั่ววันนั้น แต่ช่วงหลังๆ เขาเป็นคนดีมากเลย แต่มาชั่ววันนั้นวันเดียวที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุที่ลูกชายทำลงไปนั้นไม่ทราบจริงๆ ขณะเดียวกัน ลูกชายขับรถเก๋งมารับเพื่อไปอยู่ จ.อุดรธานี สักพักหนึ่ง