เรียกได้ว่าทำเอางงกันกันอย่างมากเลยทีเดียว เพราะอยู่ดีๆ ก็โดนผู้ชายมาต บ หน้าทั้งๆที่ไม่รู้เรื่อง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากแม่ค้าร้านขายของมือ 2 ในพื้นที่ จ.นครปฐม โดยได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาแสดงเพื่อขอความเป็นธรรม และติดตามคดี หลังจากถูกชายกลางคนบุกเข้ามาตบหน้าภายในร้านขายของ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
โดยได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา หวั่นคดีจะไม่คืบและถูกชายคนดังกล่าวกลับมาทำร้ายอีกเลยร้องเรียนสื่อฯ โดย น.ส.อุมารินทร์ รุจยากรกุล หรือ ตูน อายุ 27 ปีชาว จ.นครปฐม บอกว่า… เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. ขณะที่ตนเองกำลังขายของอยู่ที่ร้านขายของมือ 2 และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
โดยอยู่ที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีตนเอง แม่ น้องชาย และน้องสะใภ้กำลังนั่งขายของอยู่ได้มีรถกระบะยี่ห้องฟอร์ดสีส้ม มาจอดแถวๆ หน้าร้านและมีชายกลางคนอายุประมาณ 32 ปี มาทราบทีหลังว่าชื่อเล่นว่าแบงค์ ได้เดินลงมาจากรถะตรงมาหาตนเอง และมาขอตบตนเอง ซึ่งก็ได้บอกว่าใครเป็นคนขับรถคันสีดำ และขอตบหน้าจังๆ 1 ทีได้ไหม
ตนเองก็บอกว่าตบไม่ได้ ไม่ได้รู้จักกัน จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้เข้ามาตบตนเองซึ่งได้เอี้ยวตัวหลบโดนที่ไหล่ตามคลิบที่ปรากฏ น.ส.อุมารินทร์ เล่าว่า… ตอนนี้ตนเองได้ไปแจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2565 ทันที ซึ่งคู่กรณีที่เป็นสามีภรรยากันก็ได้ไปพบกับตนเอง ซึ่งได้บอกกับตนเองว่าเรื่องเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2565
เนื่องจากทั้ง 2 สามีภรรยา ได้มานั่งทานข้าวที่ตั้งอยู่ติดกับร้านตนเองและทางภรรยาได้สังเกตเห็นได้ว่าสามีคือนายแบงค์ได้มองตนเองตั้งแต่ช่วงที่เดินไปสั่งข้าวและลุกนั่งไปมากระทั่งขึ้นรถจะกลับบ้านแต่ทั้ง 2 คน ได้เข้ามาคุยแล้วบอกว่ารถสีดำของตนเองนั้นสวย และทางภรรยาได้แนะนำชื่อของสามีและมาบอกชื่อพ่อและแม่ให้ฟัง ซึ่งตนเองก็ยังงงว่าจะมาบอกเพื่ออะไรเพราะๆ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ในโรงพักภรรยาเขาบอกว่าหลังจากกลับไปแล้วสามีได้ไปจำภาพของตนเองไปทำเรื่องอย่างว่า และเกิดมีปากเสียงกัน โดยภรรยาเขาบอกว่าสามีนั้นเป็นคนมีแต่เรื่องอย่างว่าเต็มหัวไปหมด เมื่อทะเลากันแล้วทางภรรยาให้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจโดยบอกว่าสามีมาตบหน้าเพื่อแสดงว่าไม่ได้คิดอะไรกับเรา วันรุ่งขึ้นเขาก็มาจอดรถรอจังหวะให้คนน้อยและบุกลงมาตามคลิบที่เห็น
น.ส.อุมารินทร์ บอกต่อว่าหลังจากแจ้งความทางตำรวจได้ให้ตนเองไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ไม่ทราบว่าตำรวจไปเอาผลตรวจร่างกายหรือยัง ซึ่งตอนแรกคิดจะแจ้งความในฐานบุกรุก แต่ทางตำรวจบอกว่าแจ้งบุกไม่ได้เพราะร้านของเราไม่มีเลขที่และยังเป็นร้านค้าสถานที่เปิด จึงได้ให้ไปตรวจไว้ ซึ่งเจตนาตนเองคือต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะยังไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์แบบนี้มาเกิดขึ้นกับตนเองได้อย่างไร
เพราะวันที่ไปกินข้าว และวันที่เขามาตบก็ไม่ได้แต่งตัวไม่เรียบร้อยอะไรเลย เรื่องนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและได้ปรึกษากับทนายความเอาไว้เบื้องต้นเพราะกลัวคดีจะเงียบ รวมถึงกลัวเขาจะกลับมาทำร้ายอีกเพราะร้านเราเปิดโล่งไม่มีรั้วซึ่งก็ทำงานกันแบบครอบครัวไม่ได้มีใครมาช่วยดูแลเราด้วย
ด้าน นายแบงค์ บอกว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ตนทะเลาะกับภรรยาก่อนหน้านี้ ตนจึงอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ภรรยาเห็นว่าตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนดังกล่าว ตนไม่ได้รู้จักกับผู้เสียหายมาก่อน แต่ตนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ตนรู้ว่าตนผิด แต่ตนไม่ได้ตบหน้าของผู้เสียหาย ตนเพียงแตะเท่านั้น ตนพยายามจะเจรจากับอีกฝ่ายแล้วแต่อีกฝ่ายไม่ยอมเจรจาด้วย
โดยตนไม่ขอลงรายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะอยากให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ตนได้รับบทเรียนแล้วไม่อยากพูดอะไรมาก ตนไม่ได้หนีโดยขณะนี้ตนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปพบ ตนอยากให้สื่อเห็นใจ ตนยอมรับผิดแต่ตนไม่อยากเป็นข่าว เนื่องจากตนกับภรรยามีลูกเล็กอีกทั้งแม่ของตนกับแม่ของภรรยายังป่วยหนัก ซึ่งตนเกรงว่าครอบครัวจะรับไม่ได้ แล้วส่งผลกระทบกับครอบครัว ซึ่งใครจะรับผิดชอบครอบครัวของตน
ที่มา: อัมรินทร์ทีวี 34