จากกรณีที่เพจดังออกมาเปิดเผยเรื่องราวสาวออกมาแฉดาราสาวคนดัง พร้อมถามว่า… อิหยังวะ ดาราดังนี่ ดังระดับไหนแม่ โดยสาวรายดังกล่าวเล่าประสบการณ์ชีวิตที่ไปทำงานบ้านดาราดังที่ต้องกินข้าวในจานเดียวกับหมา แถมยังใช้งานเกือบ 24 ชม.วันที่ 7 ก.ย. 2565 แม่บ้านสาว เล่าว่า ตนได้เข้าไปทำงานตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ออกมาจากบ้านดาราคนดังกล่าวแล้ว
ซึ่งตนได้เข้าไปทำงานจากการที่เห็นดาราคนนี้โพสต์รับสมัครงาน แล้วก็ติดต่อทักแชตไป โดยหน้าที่ตอนนั้นเขาบอกว่าจะให้เราไปเลี้ยงน้องหมา เพราะจะมีหมาที่ป่วยอยู่ ที่ต้องดูแลคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเขาบอกว่าให้หาคนมาด้วยอีก 1 คน ตนก็เลยเรียกน้องของตนไปด้วย ซึ่งดาราคนนี้ก็ไม่ได้ถามข้อมูลอะไรเราเลยว่าเราเป็นคนที่ไหน มาจากไหน เขาแค่บอกว่าถ้าจะมาก็มาได้เลย
ซึ่งตนก็เอะใจในตอนนี้ว่าทำไมไม่ถามรายละเอียดอะไรเราเลย เพราะเป็นถึงบ้านดารา ทำไมรับคนง่ายๆ แต่ตนอยากทำงานมากกว่าก็เลยขอยืมเงินเพื่อนมาเป็นค่ารถ เพื่อเดินทางไปบ้านของเขา หลังจากนั้น ตนก็เดินทางไปถึงบ้านของเขาประมาณ 4-5 โมงเย็น แต่ในตอนนั้นก็มีแม่บ้านคนใหม่เข้ามาแล้ว 1 คน เป็นคนกะเหรี่ยง เพิ่งมาช่วงเช้าวันเดียวกัน ไม่มีแม่บ้านเก่าอยู่เลย แล้วดาราคนดังกล่าวก็บอกว่าในส่วนของการดูแลหมาต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งหมาของเขาเป็นหมาป่วย เป็นสนัขอายุเยอะแล้วตัวเล็กๆ ที่เดินไม่ได้
จากที่ตนได้พูดคุยกับแม่บ้านคนใหม่อีกคน เขาก็เล่าให้ฟังว่าพอเขามาถึง แม่บ้านคนเก่าก็ออกไปเลย โดยที่ไม่ได้พูดอะไร แต่ตนก็คิดว่าคงไม่มีอะไร ต่อมาช่วงกลางคืนหมาเขาก็ไม่ยอมนอน ร้องตลอด เหมือนอยากจะเดิน แต่เดินเองไม่ได้ ต้องช่วยจับทั้งคืน กว่าหมาเขาจะนอนก็ตี 5 แล้วพอ 6 โมงเช้า เราก็ต้องตื่นมาทำงานแล้ว แบ่งหน้าที่กันทำ นอกจากเลี้ยงหมาแล้วก็ต้องช่วยกันทำงานบ้านด้วย เพราะดาราคนนี้บอกว่าถ้าหมาหลับแล้วก็ต้องช่วยกันทำงานบ้าน
ถ้าหมาตื่นก็อุ้มหมาไว้ข้างหนึ่ง แล้วมืออีกข้างถ้าว่างก็จับนู่นจับนี่ ซึ่งตนก็งง แล้วถามเขาว่าไม่มีเวลาให้นอนเลยหรือ เขาก็บอกกับเราว่าถ้าว่างจริงๆ ก็นอนได้ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มีเวลาว่างให้ตนนอนเลย พอทำงานไปได้แค่ 2 วัน แม่บ้านอีกคนก็ขอลาออก เขาบอกว่าเขาไม่ไหว เคยทำงานแม่บ้านมาก่อน มีประสบการณ์มา 8 ปี แต่ไม่เคยเจอนายจ้างแบบนี้เลย
เอาจานข้าวที่คลุกข้าวให้หมาแล้วมาให้เรากิน ซึ่งตนก็บอกแม่บ้านคนนั้นไปว่าอดทนสัก 1 เดือนได้ไหม เพื่อจะได้เงินเดือน แต่เขาก็บอกว่าเขาทำไม่ไหว ขอลาออกดีกว่า สำหรับเรื่องค่าจ้าง ดาราคนดังกล่าวก็ไม่ได้ระบุว่าจะจ้างงานในอัตราเงินเดือนเท่าไร เพียงแต่บอกว่าหมื่นกว่าบาท แล้วขอดูการทำงานก่อนว่าจะให้เท่าไร ซึ่งตนก็ทำงานได้เพียง 3 วันเท่านั้น เพราะทำต่อไม่ไหว ทนคำพูดเขาไม่ไหว
อีกอย่างคือลูกตนก็ยังเด็กอยู่ด้วย ตนก็ต้องทิ้งลูกมาทำงานเพราะคิดว่ามันจะดี เพราะเป็นบ้านดารา ก็เลยพากันไปกับน้องสาว 2 คน แต่พอแม่บ้านอีกคนขอลาออก ตนก็ไม่อยากจะอยู่แล้ว ส่วนเวลาพักทานข้าวก็มีจะใช้การสลับกันไปกิน นอกจากนี้การที่บ้านเขาเป็นบ้านดาราก็มักจะมีช่างแต่งหน้ามาที่บ้านอยู่บ่อยๆ ก็จะต้องคอยเสิร์ฟน้ำอยู่ตลอด ในตอนที่ตัดสินใจจะลาออก ตนก็ขึ้นไปบนห้องเขาและบอกว่า… หนูขอกลับได้ไหม หนูเลี้ยงไม่ไหวแล้ว หนูไม่ได้นอน
แต่แม่ของดาราเขาก็พูดจาดี บอกว่า รอได้คนใหม่ก่อนได้ไหมลูก แล้วหนูค่อยไป ตนก็เลยบอกว่าจะรอคนใหม่มาก่อนก็ได้ ซึ่งหลังจากนั้น 1 วัน ก็มีแม่บ้านคนใหม่เข้ามา แม่ดาราก็ถามเราว่ากลับเลยไหม แต่ตนบอกเขาไปว่ากลับไม่ได้ นี่มัน 6 โมงกว่าแล้ว บ้านตนไกลอยู่ จ.สมุทรสาคร เขาก็เหมือนจะไม่ให้เราอยู่ต่อ ตนเลยขอเขาว่าขอนอนอีกคืนได้ไหม พรุ่งนี้เช้าจะไป แต่เขาไม่ยอม แม่ดาราก็เลยให้เลขาโทรหาดาราคนนั้น เพื่อถามว่าจะให้ตนนอนที่บ้านอีกคืนได้ไหม
แต่ดาราสาวไม่ให้นอน แล้วจะไปส่งตนที่หมอชิต แล้วให้นั่งรถกลับกันไปเอง แต่ตนไม่ยอมและบอกเขาไปว่าถ้าอยากให้กลับจริงๆ ก็ต้องหารถให้ตน และจ่ายเงินค่ารถให้ตนด้วยตนถึงจะไป เพราะแม่บ้านแต่ละคนที่ออกไปกันไม่มีใครได้เงินเลย อย่างแม่บ้านคนก่อนที่ลาออกไป เขาก็ไม่มีค่ารถแต่ดาราก็ไม่ให้ เพราะเขาบอกว่าทำงานได้แค่ 2-3 วัน เขาก็จะไม่ให้เงิน ตอนแรกที่เข้าไปแล้วตนจะกินข้าว ก็เลยไปหยิบจานข้าวมา แต่แม่บ้านคนก่อนก็ห้ามตน แล้วบอกให้ไปใช้จานอีกที่ ซึ่งมันเป็นจานข้าวหมา ตนก็ต้องกิน เพราะมันไม่มีจานอื่นแล้ว
สำหรับตารางการทำงานของตนคือ ตื่นเช้ามา เวลา 06.00 น. ก็ต้องไปให้อาหารหมา อาหารแมว แล้วก็กวาดรอบบ้าน ล้างกรงเก็บขี้หมา ทำทุกอย่างเลย เวลา 07.30 น. ก็จะเสร็จงานในส่วนนี้ จากนั้นก็ต้องไปช่วยกวาดบ้านถูบ้านต่อ แล้วพอเวลา 08.00 น. ก็จะมีพนักงานของเขาเข้ามาทำงานที่บ้าน ตนก็เสิร์ฟน้ำบ้าง แล้วก็พักกินข้าว สลับกันอาบน้ำ เวลา 10.30 น. ดาราคนนั้นก็จะตื่น แล้วตนก็ต้องขึ้นไปเก็บกวาด
หลังจากนั้นก็จะไม่ว่างแล้วทั้งวัน พอช่วงบ่ายก็จะต้องรอเขาอยู่แถวนั้น เพราะเขาจะเรียกใช้เราตลอด เคยมีอยู่วันหนึ่งเขาซื้อส้มตำมากินกันหลายคน ก็ซื้อมาเยอะ ตนยังพูดกับแม่บ้านอีกคนว่าเดี๋ยวถ้าเขากินกันไม่หมด เราต้องได้กินส้มตำกันแน่เลย เพราะตอนนั้นตนก็อยากกิน จากที่ตนเคยทานอยู่บ้านคนอื่นเขาก็ไม่ค่อยแบ่งชนชั้นกันเรื่องการกิน แต่วันนั้นพอเขาเรียกให้ไปเก็บจาน มันก็เหลือหมูอยู่ชิ้นเดียว แล้วในส้มตำก็เหลือแค่น้ำส้มตำกับมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว
แล้วเขาบอกกับเราว่าให้เอาไปแบ่งกันกิน ตนก็ยังมองหน้ากันกับแม่บ้านอีกคนว่ามันมีอะไรให้กินในจาน ซึ่งตนก็ไม่ได้กินกัน แล้วก็เททิ้งไป แต่จริงแล้วมันยังมีอาหารทั้งส้มตำไทย ส้มตำปูปลาร้าที่ยังเหลืออยู่อีก แต่เขาให้ตนเก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ ไม่ให้ตนกิน แล้ววันต่อมาเขาก็กินส้มตำอีก แต่บอกตนว่าส้มตำที่แช่ในตู้เย็นเมื่อวานให้ตนเอาไปกินกันเลย ซึ่งเป็นส้มตำแช่เย็น มันก็ไม่อร่อยแล้ว ตนก็เลยทิ้งไปไม่ได้กิน
แล้วห้องนอนก็แม่บ้านก็เล็กมาก แต่อยู่กัน 3 คน มีห้องน้ำเล็กๆ ในห้อง ถ้ามีใครคนหนึ่งอาบน้ำแต่งตัว อีกคนนึงก็ต้องออกไปรอที่ห้องครัว เพราะมันแคบมาก พอตอนกลางคืนก็ต้องไปนอนที่ห้องรับแขกใหญ่ ปูผ้าปูที่นอนแล้วก็นอนเลย พอเช้าก็ค่อยเก็บ เวลานอนของตนก็คือต้องรอให้เขากลับมาบ้านก่อน ต้องช่วยทำนั่นนี่
กว่าจะได้นอนก็เกือบ 22.00 น. แต่ก็ไม่ได้หลับ เพราะต้องดูแลหมา นอนกับหมา ต้องคอยป้อนน้ำให้หมาทุก 5 นาที แต่ช่วงกลางวันหมามันก็จะนอน แต่ตนก็ต้องทำงานบ้านตอนกลางวัน โดยที่บ้านเขามีหมาอยู่ข้างล่าง 5 ตัว ข้างบนอีกประมาณ 8 ตัว แล้วก็ยังมีแมวอีกด้วย ซึ่งในส่วนของการเลี้ยงหมาแมวก็เป็นหน้าที่ของตน ส่วนน้องสาวของตนก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ตอนที่มาเขาก็บอกว่าให้ช่วยรดน้ำต้นไม้อะไรนิดหน่อย แต่พอไปจริงก็ให้น้องสาวตนทำงานบ้านทุกอย่าง แต่น้องตนก็ทำไม่เป็น เพราะยังเด็กอยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าต้องทำเยอะขนาดนี้
ซึ่งก่อนที่ตนจะออกมาจากบ้าน ตนก็ได้พูดกับแม่เขาว่า ถ้ายังทำตัวแบบนี้อยู่ก็หาแม่บ้านไปเลยยาวๆ เมตตาหมา แต่ไม่เมตตาคนด้วยกัน แต่เขาก็เงียบไม่ได้พูดอะไร ที่ออกมาโพสต์ก็ไม่ได้ตั้งใจจะประจานเขา แต่เห็นว่าเขากำลังหาคนอยู่ก็เลยอยากจะโพสต์เตือน แล้วในวันที่เขาจะให้ตนออกมาก็เหมือนว่ากำลังจะมีแม่บ้านใหม่เข้ามา 3 คน เขาก็คงไม่อยากให้ตนเจอ เพราะอาจจะกลัวเล่าเรื่องให้คนใหม่ฟัง ก็เลยรีบไล่ตนออกมา
หลังจากที่ตนได้โพสต์ข้อความดังกล่าวไปก็มีแม่บ้านหลายคนที่เคยทำงานกับดาราคนนี้อินบ็อกซ์เข้ามาบอกว่าทำงานได้แค่วันเดียว ค่าแรงก็ไม่ได้ ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าโพสต์ เพราะไม่มีใครกล้าเสี่ยง ซึ่งตัวเองก็ไม่กล้าบอกกับทีมข่าวเหมือนกันว่าดาราคนดังกล่าวคือใคร ซึ่งทีมข่าวรู้แล้ว แต่ก็พูดไม่ได้เหมือนกัน