อดีตสาวประเภทสองที่โลดแล่นอยู่ในเมืองหลวง เหมือนเด็กหนุ่มสาวทั่วไป แต่ความสนุกที่ได้กลับมาเป็นความทุกข์ถนัด ที่ทำร้ายตัวเอง ต้องหอบความปวดร้าวกลับบ้านหวังพึ่งญาติพี่น้อง แต่เหมือนถูกซ้ำเติม ญาติเมินหน้าเพราะรังเกียจ แต่อะไรก็ไม่ร้ายเท่าพ่อตัวเองแท้ๆ ยังเมินหนี ซ้ำป่วยหนักเส้นยึด เดินไม่สะดวกจนสุดท้ายเชื้อลามขึ้นสมอง ตาบอดสนิทไปหนึ่งข้าง ต้องมาเดินเก็บขยะข้างถนนขายเลี้ยงชีวิต
แต่กรรมยังไม่หมดเพราะ โรงพยาบาลปฏิเสธออกบัตรรับรองผู้พิการอีก เรื่องจริงของละครชีวิต ของอดีตสาวสอง ที่ตั้งแต่เช้า หลังตื่นนอนจากที่พักซึ่งไม่ต่างจากเล้าไก่ ที่แทบจะหลบแดดหลบฝนไม่ได้ วิษณุ เชื้อวงษ์ อดีตสาวสอง ในวัย 43 ปี ชาว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จะลุกมาหุงหาอาหารจากเตาฟืน ที่ใช้หินสามก้อนมาวางเป็นสามเส้า แทนเตาอั้งโล่ ซึ่งก็คืออาหารมื้อที่เหลือจากเมื่อวานเป็นส่วนใหญ่ เพื่อทานประทังชีวิตให้อิ่ม
ต่อจากนั้นก็เดินพร้อมถุงปุ๋ยสองใบ ออกหาเก็บขยะ เศษเหล็ก เศษพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม รวมทั้งขวดเปล่า ที่มีคนทิ้งข้างถนน เขาเริ่มต้นเดินเท่าจากที่พัก ไปเรื่อยๆ จนบางวัน วิษณุเดินไปจนถึง สี่แยกสามทหารกบินทร์บุรี ซึ่งรวมระยะทางไปกลับแล้วกว่า 20 กิโลเมตร แต่ใช่ว่าการเดินเก็บเศษขยะที่เหลือทิ้งตามสองข้างทางจะประสบผลสำเร็จ วิษณุบอกว่าบางวันแทบไม่ได้ หรือได้ไม่พอจะเอาไปขาย หิวก็ดื่มน้ำเปล่าที่นำติดตัวมา ลูบท้องแทน
ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก เขาก็ต้องไป เพราะถ้าไม่ไปไม่มีขยะขาย ก็ไม่ได้กิน บางครั้งเจอคนใจดีก็หยิบยื่นอาหารหรือขนมให้ประทังชีวิต ราคาที่เขาขายกระป๋องน้ำอัดลม กิโลกรัม ละ 48 บาท แต่วิษณุต้องใช้เวลานานหลายวันกว่าจะรวบรวมได้หนึ่งกิโลกรัม เพื่อไปแลกกับเงิน 48 บาท หลังเดินมาทั้งวันก็จะเอาขยะที่เก็บได้มารวมไว้ก่อนคัดแยกขาย
เมื่อหายเหนื่อย มื้อเย็นไม่ต้องพูดถึงวิษณุบอก ไม่เคยกินมานานแรมปีแล้ว ไม่ใช้ประหยัด แต่เพราะไม่มีจะกิน แม้แต่มื้ออื่นบางวันยังต้องไปอาศัยความเมตตา ขอข้าวก้นบาตพระมากิน วิษณุ บอกว่า ชีวิตนี้ไม่หวังอะไรแล้ว ขอเพียงมีที่ซุกหัวนอน ที่กันฟ้ากันฝน ไม่ต้องมาคอยพะวงว่ากระต๊อบที่อาศัย มันจะพังลงมาเมื่อไหร่ เพราะสร้างจากไม้ไผ่ และเศษไม้
แต่ที่เหนืออื่นใด วิษณุ บอกว่า อยากได้บัตรสวัสดิการของคนพิการ เพราะตัวเองเส้นขายึด เดินไม่สะดวก และตาบอด เหตุเพราะเชื้อราลามติดเชื้อ อย่างน้อยจะได้มีเงินไว้ซื้อข้าวกินเมื่อยามที่ตนเองที่เดินไม่ไหว หรือหาของขายเก่าไม่ได้ จะได้เอามาใช้จ่ายได้บ้าง วิษณุ บอกว่า เคยไปขอทำเรื่องแต่หมอ รพ.แห่งหนึ่ง ที่กบินทร์บุรี ที่เข้ารักษาตัวปฏิเสธ บอกว่า บอดข้างเดียวไม่เข้าข่ายผู้พิการ ต้องรอให้ตาบอดสองข้างก่อนถึงจะออกให้ได้
ชีวิตก็คงต้องทนไปอย่างนี้จนกว่าจะตาย แต่ไม่เคยคิดสั้น ไม่เคยท้อ ไม่เคยโทษโชคชะตา ทุกอย่างเป็นเพราะกรรมของตัวเราทั้งหมด ก็จะขอสู้ต่อไปจนถึงวันสุดท้าย ขณะที่นางอุไร (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งมีศักดิ์ เป็นญาติห่างๆ และเป็นคนที่ให้ที่อยู่ และทำเพิงพัก วิษณุ ใช้เป็นที่อาศัย เปิดเผยว่า…
ถึงแม้เค้าจะเป็นคนพิการด้วยสาเหตุเลือดบวก แต่วิษณุ ไม่เคยมาแบมือขอใคร ยังรู้จักทำมาหากิน เดินเก็บขยะวันละ 20 กิโลเมตร ทั้งที่ ตาบอด เดินไม่ถนัด ก็ต้องดูแลกันไปตามมีตามเกิด ส่วนตัวอยากให้เค้ามีบัตรคนพิการเพื่อจะได้เข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ หรืออย่างน้อยก็มีเงินไว้ซื้อกับข้าวกิน ใครที่อยากจะช่วยเหลือต่อชีวิต อดีตสาวประเภทสอง สามารถโอนเข้าบัญชี ธนาคาร ออมสิน สาขา กบินทร์บุรี ชื่อ นายวิษณุ เชื้อวงษ์ บัญชีเลขที่ 020188136234 ประเภทออมทรัพย์