จากกรณีที่มือพ่นกราฟฟิตี้ นำสีสเปรย์ไปพ่นประตูร้านขายโทรศัพท์มือถือ และรถยนต์กระบะเก่าที่จังหวัดนครราชสีมา ด้วยการพ่นสีสเปรย์เป็นลวดลายกราฟฟิตี้ พร้อมกับพ่นตัวอักษรคำว่า OME ทำให้เจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือ และเจ้าของรถยนต์กระบะ ไม่พอใจ ถ่ายรูปนำมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กจนมีผู้แสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 25 ก.ค. 2565 ณ.ที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแยกไฟแดงถนนราชดำเนิน ใกล้กับห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า สาขาจอมสุรางค์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พบว่าสีสเปรย์ที่พ่นเป็นลวดลายตรงประตูเหล็กม้วนหน้าร้าน ได้ถูกลบคราบสีสเปรย์ออกไปจนหมดเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
สอบถาม นายประวิทย์ ตรีเวส เจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือดังกล่าว เปิดเผยว่า… หลังจากประตูร้านของตนถูกคนพ่นสีสเปรย์จนเป็นข่าวดัง และตนได้ติดต่อไปยังเฟซบุ๊กของคนที่พ่นสีสเปรย์ โดยตนได้แจ้งไปว่าให้เวลา 2 วันในการมาลบสีที่พ่นเอาไว้ หากไม่ดำเนินการตนก็จะเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีนั้น
ต่อมาทางผู้ที่พ่นสีสเปรย์ได้ตอบกลับมา และยินยอมที่จะลบสีสเปรย์ที่พ่นดังกล่าว โดยขอเวลา 2 วันในการดำเนินการตามที่ได้ตกลงกัน ล่าสุดผู้ที่พ่นสีสเปรย์ก็ได้ลบคราบสีสเปรย์ออกไปจนหมดแล้ว ซึ่งตนก็จะไม่ไปแจ้งความเอาผิดแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน รถยนต์กระบะเก่าที่จอดไว้บริเวณใกล้แยกไนท์บาร์ซ่าสวนหมาก เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งถูกพ่นสีสเปรย์ด้วยฝีมือของคนๆ เดียวกัน ล่าสุดก็พบว่าได้มีการลบตราบสีสเปรย์ออกไปหมดแล้วเช่นเดียวกัน
จากการสอบถามไปยังเฟซบุ๊กของคนพ่น เปิดเผยว่า… หลังเกิดเหตุตนได้รับการติดต่อจากเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือ และเจ้าของรถยนต์กระบะที่ตนได้ไปพ่นสีสเปรย์ ซึ่งตนก็ได้ยอมรับผิด และได้โทรศัพท์ติดต่อไปขอโทษทุกคนแล้ว โดยตนได้ใช้เวลาในช่วงกลางคืนนำน้ำยาล้างสีสเปรย์ สูตรไม่ทำลายพื้นผิว ซึ่งเป็นน้ำยาที่ใช้สำหรับล้างคราบสีสเปรย์โดยเฉพาะ ไปดำเนินการล้างคราบสีสเปรย์ทั้ง 2 จุดดังกล่าว ใช้ระยะเวลาในการลบคราบจำนวน 2 วันจึงสามารถลบคราบออกได้หมด
อย่างไรก็ตามตนจะลงมือพ่นสีสเปรย์เฉพาะสถานที่รกร้างหรือของเก่าเท่านั้น หากเป็นสถานที่ใหม่หรือของใหม่ตนก็จะไม่ลงมือทำ และหากเจ้าของสถานที่ใดที่ตนเป็นผู้ลงมือพ่นสีสเปรย์ ต้องการอยากให้ตนไปลบสีสเปรย์ที่พ่นลงไป ก็ขอให้ติดต่อมาได้เลย ตนยินดีพร้อมที่จะไปลบให้ และใครต้องการแจ้งความเอาผิด ตนก็พร้อมยอมรับ และพร้อมที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
