กลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้าขึ้นมาจนได้ โดยเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2565 น.ส.กรรณิการ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ อยากให้ครูผู้สอนคำนึงถึงความรู้สึกของนักเรียน หลังจากลูกสาวตัวเองอายุ 14 ปี เสียชีวิต เพราะน้อยใจครูผู้สอนที่ดูถูก และได้รับความกดดันจากเพื่อนนักเรียนด้วยกัน
น.ส.กรรณิการ์ เล่าว่า… ตนมีลูก 3 คน ลูกสาวคนเล็กคือคนที่เสียชีวิต เป็นนักเรียนชั้นม2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ลูกสาวบอกจะขอไปพักที่บ้านเช่าของผู้ใหญ่บ้านซึ่งอยู่ข้างโรงเรียน เพราะไม่มีค่อยมีคนว่างมาส่งที่โรงเรียน ตนก็ยอมให้ลูกไปพัก ต่อมาประมาณต้นเดือนที่ผ่านมา ลูกสาวส่งไลน์มาแจ้งว่า… รู้สึกกดดันมาก ครูพูดว่าคนอย่างหนูจะเรียนไม่จบหรอก เขามั่นใจ
ต่อมาลูกสาวยังไลน์มาบอกอีกว่า… ถ้าจบเทอมนี้หนูจะหาเงินด้วยตัวเอง จะขอย้ายโรงเรียน เพราะรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ครูก็ชอบกดดัน เพื่อนก็ชอบเมิน ไม่มีเงินไม่มีรถเพื่อนไม่คบ เพื่อนไม่นับ พอวันที่ 9 ก.ค. 2565 ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่าลูกสาวจบชีวิตตัวเองภายในห้องพัก และยังพบจดหมายลา ฝากไปถึงคนในครอบครัวอีกด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากโทษใคร แต่อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ครูผู้สอนควรจะปฏิบัติต่อเด็กอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องคำพูด จะพูดอย่างไรเด็กจึงจะไม่เสียใจ เพราะเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน น.ส.กรรณิการ์ กล่าว ขณะที่นายสุนทอง มีมาก ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า…
ที่ผ่านมาการเรียนการสอนของครูก็เป็นปกติ ครูผู้สอนไม่น่าจะพูดรุนแรงตามที่นักเรียนบอกแม่ คาดว่าอาจเป็นไปได้ที่นักเรียนจะคิดมากเรื่องการเรียน เรื่องเพื่อนมาบวกกัน ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ โดยหลังจากนี้จะกำชับให้ครูผู้สอนทุกคน ให้ระวังเรื่องคำพูดไม่ให้กระทบกระเทือนถึงนักเรียนอีกต่อไป